วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2559

การบันทึกครั้งที่ 16 วันอังคาร ที่ 22 พฤศจิกายน 2559 เวลาเรียน 13.30 -17.30 น

ความรู้ที่ได้รับ
อ.ให้แต่ละกลุ่มออกมาสอนหน่วยที่ตนเองได้

ขั้นนำ
ถามปริศนาคำทาย
อะไรเอ่ยเป็นน้ำสีขาว ในกล่องยาว เราใช้ดื่ม
ขั้นสอน
1.นำนมมา2ชนิดให้เด็กดู ได้แก่นมถั่วเหลืองและนมวันรสช็อคโกแลต เพื่อให้เด็กสังเกตลักษณะของนม
2.ถามเด็กว่านมถั่วเหลืองมีสีอะไร นมถั่วเหลืองกลิ่นเป็นอย่างไร นมถั่วเหลืองมีรสชาติอย่างไร และนมถั่วเหลืองลักษณะเป็นน้ำจึงมีสถานะเป็นของเหลวแล้วนำไปติดในตาราง
3.ถามเด็กว่านมช็อคโกแลตมีลักษณะอย่างไรเช่นเดียวกับข้อที่ 2
4.ถามสิ่งที่เหมือนกันและสิ่งที่ต่างกัน โดยทำอินเตอร์เซคกัน (ต้องนำสิ่งที่เหมือนกันมาใส่ก่อน)
ขั้นสรุป
ถามเด็กว่าสิ่งที่เหมือนกันมีอะไรบ้างและสิ่งที่ต่างกันมีอะไรบ้างและสรุปให้เด็กฟัง

นมถั่วเหลือง  
สี ครีม
กลิ่น ถั่วเหลือง
รสชาติ จืด
สถานะ ของเหลว

นมวัวรสช็อคโกแลต
สี น้ำตาล
กลิ่น ช็อคโกแลต
รส หวาน
สถานะ ของเหลว

สิ่งที่เหมือนกัน
สถานะ ของเหลว

สิ่งที่ต่างกัน
สี กลิ่น และ รสชาติ 




การชิมรสชาติของนม




-เพื่อนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอหน่วยของตนเอง




หน่วยข้าว





หน่วยไก่

การประยุกต์
ใช้ในการสอน

ประเมินอาจารย์
เมื่อนักศึกษาสอนไม่ถูกต้องอ.จะคอยอธิบายเพิ่มเติมทำให้เข้าใจวิธีการสอนมากยิ่งขึ้น

ประเมินตนเอง
สอนยังไม่ถูกต้องจะต้องแก้ไขเรื่องการพูดในเสร็จก่อนที่ละชนิด

ประเมินเพื่อน
อาจสอนผิดไปบ้างแต่ก็ตั้งใจสอนเป้นอย่างดี

การบันทึกครั้งที่ 15 วันอังคาร ที่ 15 พฤศจิกายน 2559 เวลาเรียน 13.30 -17.30 น

ความรู้ที่ได้รับ
อ.ให้กลุ่มที่ทำหน่วยแบ่งกันว่าแต่ละคนสอนวันไหนบ้างและให้แต่ละคนทำแผนของวันที่ตนได้
ดังนี้
วันจันทร์ กษมา สอนประเภทของนม
วันอังคาร ปรีชญา(ฉัน) สอนลักษณะของนม
วันพุธ วนิดา สอนการถนอมนม
วันพฤหัสบดี ศิริพร สอนประโยชน์และโทษของนม
วันศุกร์ มาณิศา สอนสาธิตการทำอาหารจากนม

หลังจากนั้นอ.ให้ตัวแทนออกมาจับสลากว่าแต่ละกลุ่มได้วันอะไร
วันจันทร์ กลุ่มกล้วย และ พี่อีกคนทำเรื่องร่างกายของฉัน
วันอังคาร กลุ่มนม
วันพุธ กลุ่มข้าวและกลุ่มส้ม
วันพฤหัส กลุ่มส้ม
วันศุกร์ กลุ่มน้ำ

การประยุกต์
เอาไปเขียนแผนการสอนในอนาคต

ประเมินอาจารย์
อ.คอยอธิบายการเขียนแผนทำให้รู้ว่าจะเขียนแบบไหน

ประเมินตนเอง
ตั้งใจเขียนแผนและเรียนเป็นอย่างดี

ประเมินเพื่อน
เพื่อนตั้งใจเขียนแผนและตั้งใจเรียน

การบันทึกครั้งที่ 14 วันอังคาร ที่ 8 พฤศจิกายน 2559 เวลาเรียน 13.30 -17.30 น

เนื่องจาก อ.ตฤณ ได้ให้ของฉันเป็นตัวแทนสาธิตการสอนการเคลื่อนไหว หน่วผีเสื้อ ให้คณะศึกษาดูงานจากประเทศ ออสเตรีย ดังนั้นอ.ตฤณ จึงขอเวลาเพื่อซ้อมการสอนในคาบของอ.จินตนา ดังนั้นจึงไม่มีการเรียนการสอน



การบันทึกครั้งที่ 13 วันอังคาร ที่ 1 พฤศจิกายน 2559 เวลาเรียน 13.30 -17.30 น

ความรู้ที่ได้รับ
อ.ให้แต่ละกลุ่มเปิดวีดีโอ สาธิตการทำของเล่นวิทยาศาสตร์หน้าชั้นเรียน
มีดังนี้
กลุ่มที่1พลังปริศนา
https://www.youtube.com/watch?v=Go9zrFhikS8

กลุ่มที่2ขวดบ้าพลัง
https://www.youtube.com/watch?v=7jU51MATe8g

กลุ่มที่3รถแกนหลอดด้าย
https://www.youtube.com/watch?v=QwkwdmlMres

กลุ่มที่4ลูกข่างนักสืบ
https://www.youtube.com/watch?v=8iXxHIRi72I&t=52s

สิ่งที่กลุ่มของฉันต้องปรับปรุงคือ
1.เพิ่มตัวหนังสือประกอบคำพูดและตัวหนังสือขณะที่บอกอุปกรณ์และขั้นตอนการทำ
2.เพิ่งตัวเลขเพื่อกำกับจำนวณ

หลังจากนั้นอ.ให้กลุ่มที่ทำหน่วยต่างๆ เขียนมายแมบปิ้งของแต่ละคน








การประยุกต์ใช้
ให้เด็กได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์ด้วยการลงมือปฏิบัติ
ประเมินอาจารย์
อ.อธิบายเพิ่มทำให้เข้าใจง่ายขึ้น
ประเมินตนเอง
ตั้งใจฟังและตั้งใจดูบางครั้ง
ประเมินเพื่อน
ตั้งใจดูเป็นอย่างดี

การบันทึกครั้งที่ 12 วันอังคาร ที่ 25 ตุลาคม 2559 เวลาเรียน 13.30 -17.30 น.

ความรู้ที่ได้รับ
อ.ให้ออกมานำเสนอมายแมบปิ้งของแต่ละกลุ่ม
กลุ่มที่1ส้ม
กลุ่มที่2ไก่
กลุ่มที่3ข้าว
กลุ่มที่4กล้วย
กลุ่มที่5น้ำ
กลุ่มที่6นม









หน่วยนม



หลังจากนั้นอ.สอนสาระวิทยาศาสตร์8สาระ
เพื่อนำมาประยุกต์ใช้นาการสอน
สาระที่  1   สิ่งมีชีวิตกับกระบวนการดำรงชีวิต
มาตรฐาน ว  1. 1  เข้าใจหน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของ
ระบบต่างๆ ของสิ่งมีชีวิตที่ทำงานสัมพันธ์กัน มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้  สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในการดำรงชีวิตของตนเองและดูแลสิ่งมีชีวิต
มาตรฐาน ว  1.2   เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพ การใช้เทคโนโลยีชีวภาพที่มีผลกระทบต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์ สื่อสาร สิ่งที่เรียนรู้ และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์
สาระที่ 2 ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม
มาตรฐาน ว 2. 1  เข้าใจสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่น   ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งแวดล้อมกับสิ่งมีชีวิต   ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์
มาตรฐาน ว 2.2    เข้าใจความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ การใช้ทรัพยากรธรรมชาติในระดับท้องถิ่น ประเทศ และโลกนำความรู้ไปใช้ในในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน
สาระที่ 3 สารและสมบัติของสาร
มาตรฐาน ว 3. 1 เข้าใจสมบัติของสาร   ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค  มีกระบวนการสืบเสาะ หาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ นำความรู้ไปใช้ประโยชน์
มาตรฐาน ว 3.2   เข้าใจหลักการและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสาร   การเกิดสารละลาย   การเกิดปฏิกิริยา มีกระบวนการสืบเสาะ หาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์
สาระที่ 4   แรงและการเคลื่อนที่
มาตรฐาน ว 4. 1 เข้าใจธรรมชาติของแรงแม่เหล็กไฟฟ้า แรงโน้มถ่วง และแรงนิวเคลียร์  มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์อย่างถูกต้องและมีคุณธรรม  
มาตรฐาน ว 4.2 ข้าใจลักษณะการเคลื่อนที่แบบต่างๆ ของวัตถุในธรรมชาติมีกระบวนการ           
                          สืบเสาะหาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใชประโยชน์
สาระที่ 5 พลังงาน
มาตรฐาน ว 5. 1   เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานกับการดำรงชีวิต การเปลี่ยนรูปพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสารและพลังงาน  ผลของการใช้พลังงานต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อม   มีกระบวน การสืบเสาะหาความรู้  สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และ นำความรู้ไปใช้ประโยชน์
สาระที่ 6  กระบวนการเปลี่ยนแปลงของโลก
มาตรฐาน ว 6. 1  เข้าใจกระบวนการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนผิวโลกและภายในโลก ความสัมพันธ์ของกระบวนการต่าง ๆ ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ภูมิประเทศ และสัณฐานของโลก มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์
สาระที่ 7  ดาราศาสตร์และอวกาศ
มาตรฐาน ว 7. 1 เข้าใจวิวัฒนาการของระบบสุริยะ กาแล็กซีและเอกภพการปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะและผลต่อสิ่งมีชีวิตบนโลก มีกระบวนการสืบเสาะ หาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์  การสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์

มาตรฐาน ว 7.2   เข้าใจความสำคัญของเทคโนโลยีอวกาศที่นำมาใช้ในการสำรวจอวกาศและทรัพยากรธรรมชาติ ด้านการเกษตรและการสื่อสาร  มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์อย่างมีคุณธรรมต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อม
สาระที่ 8  ธรรมชาติของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 8. 1 ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้ การแก้ปัญหา รู้ว่าปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สามารถอธิบายและตรวจสอบได้ ภายใต้ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วงเวลานั้นๆ เข้าใจว่า วิทยาศาสตร์  เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม  มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน

การประยุกต์ใช้
การทำมายแมบต้องแบ่งเป็น4ส่วนเท่าๆกัน โดยเริ่มจากฝั่งขวาเสมอ
ประเมินอาจารย์
อ.คอยอธิบายเกี่ยวกับการทำมายแมบปิ้ง ทำให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น
ประเมินตนเอง
ตั้งใจฟังดี
ประเมินเพื่อน
เพื่อนตั้งใจนำเสนอและตั้งใจฟังเพื่อนกลุ่มอื่นนำเสนอเป็นอย่างดี

การบันทึกครั้งที่ 11 วันอังคาร ที่ 18 ตุลาคม 2559 เวลาเรียน 13.30 -17.30 น

ความรู้ที่ได้รับ
อ.ให้แต่ละกลุ่มนำเสนอผลงาน
มีดังนี้
  1.  นาฬิกาทราย 
  2. ลวดเต้นระบำ
  3. วงโคจรของโลก
  4. ทวินเพน
  5. กล่องสุริยะจักรวาล
  6. โรงละคร ผีเสื้อเริ่งระบำ
  7. รางหรรษา
  8. ไข่หรรษา
  9. ภาพใต้น้ำ


นาฬิกาทราย


หลังจากนั้นอ.ให้จับกลุ่ม กลุ่มละ5คน ทำมายแมบปิ้งเป้นหน่วยต่างๆโดยมีหัวข้อดังนี้
1.ประเภท(ใช้เกณฑ์ในการแบ่ง) /ชนิด
2.ลักษณะ อาจเป็น สี ขนาด รูปทรงเป็นต้น
3.การดูและรักษา/การถนอมอาหาร/การดำรงชีวิต
4.ประโยชน์
5.โทษ/ข้อควรระวัง
แบ่งได้ทั้งหมด 6 กลุ่ม แบ่งเป็นหน่วยดังนี้
1.กล้วย
2.นม
3.ข้าว
4.ไก่
5.น้ำ
6.ส้ม
การประยุกต์ใช้
นำไปสอนเด็กเรื่องหน่วยต่างๆที่อยู่รอบๆตัวเด็ก
การประเมิน
ประเมินอาจารย์
อ.คอยอธิบายการเลือกหน่วยและสอดแทรกวิทยาศาสตร์อยู่ตลอด
ประเมินตนเอง
ช่วยเพื่อนคิดหน่วยที่จะทำมายแมบปิ้ง
ประเมินเพื่อน
เพื่อนแต่ละกลุ่มช่วยกันคิดและทำมายแมบปิ้งเป็นอย่างดี

วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

การบันทึกครั้งที่ 10 วันอังคาร ที่ 11 ตุลาคม 2559 เวลาเรียน 13.30 -17.30 น.

ความรู้ที่ได้รับ
อ.ให้จับทำของเล่นวิทยาศาสตร์ที่เด็กทำตามได้ดดยในถ่ายคลิปลงyoutube
กลุ่มของฉันตัดสินใจกันว่าจะทำลูกข่างนักสืบ



ระดมความคิด



หลังจากนั้นให้นำเสนองาน
กลุ่มที่1 ลูกข่างนักสืบ
กลุ่มที่2 ปืนลม
กลุ่มที่3 แผ่นซีดีเป่าให้ลอย
กลุ่มที่4 รถหลอดด้าย






การประยุกต์ใช้
สอนให้เด้กๆรู้จักเรื่องแสงโดยผ่านของเล่นที่ชื่อว่าลูกข่างนักสืบ
ประเมินอาจารย์
ตอนที่นักศึกษานำเสนอผลงานอ.ก็จะคอยเสริมความรู้ทำให้เรารู้มากยิ่งขึ้น
ประเมินตนเอง
ช่วยเพื่อนดดยการเสนอความคิด และ มีการฟังเพื่อนพูดแต่บางครั้งอาจไม่ค่อยสนใจบ้าง
ประเมินเพื่อน
เพื่อนช่วยกันทำงานและเสนอความคิดเห็นแต่อาจมีบ้างที่ไม่ตั้งใจฟังอาจารย์

วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

การบันทึกครั้งที่ 9 วันอังคาร ที่ 4 ตุลาคม 2559 เวลาเรียน 13.30 -17.30น.

ความรู้ที่ได้รับ
วันนี้มีพี่ปี5 สาขาปฐมวัยมาให้ความรู้และทำกิจกรรม cooking เรื่อง ทาโกะยากิไข่ข้าว
ขั้นนำ ครูร้องเพลงสงบเด็ก

เพลง มือ
มือ มือ มือ มือ    มือของฉัน
วางมันไว้บนไหล่   มือน้อยน่ารัก
วางบนไหล่ฉันนี่  มือ มือ มือ มือ
มือของฉันวางมันไว้บนตัก
มือน้อยน่ารัก  วางบนตักฉันเอง

        หลังจากนั้นครูพาเด็กๆร้องเพลงสัมพันธ์เนื้อหาคือ 

เพลง อาหารดี
อาหารดี  นั้นมีประโยชน์
คือผักสด เนื้อหมู  ปู  ปลา
เป็ด ไก่ ไข่นม ผลไม้นานา
ล้วนมีคุณค่า  ต่อร่างกายเรา
รอบแรกครูจะร้องให้ฟัง
รอบที่สอบครูร้องให้เด็กร้องตามทีละวรรค
รอบสุดท้ายร้องพร้อมกับครู
-ครูถามคำถามทบทวนเนื้อหา เช่น ในเพลงนี้มีอาอาหรอะไรบ้าง
-ครูถามประสบการ์เดิมเกี่ยวกับอาหาร เช่น นอกจากในเพลงเด็กๆรู้จักอาหารอะไรอีก

ขั้นเสริมประสบการณ์
1.ครูแนะนำวัตถุดิบและอุกรณ์
วัตถุดิบ
1.ไข่ไก่ 30 ฟอง
2.ปูอัด 1 ถ้วยตวง
3.ข้าว 1 โถ
4.หอมหัวใหญ่ 1 หัว
5.แครอท 1 หัว
6.มะเขือเทศ 1 ลูก
7. เครื่องปรุงรส
8.มาการีน 1 กระปุก
9.มายองเนส 1 ขวด
 อุปกรณ์
1.มีด 2 ด้าม
2.เขียง 1 อัน
3.จาน 5 ใบ
4.เตาทาโกะ 2 เตา
5.ช้อน 5 คัน
*ในส่วนที่สอน ถ้าสิ่งไหนเด็กไม่รู้จักให้เราพูดแล้วให้เด็กพูดตาม
*ครูจะต้องสาธิตการทำให้เด็กดูก่อน
วิธีทำ
1.ใส่แครอท 2 ช้อนชา หอมหัวใหญ่ 2 ช้อนชา มะเขือเทศ 2 ช้อนชา ปูอัด 1 ช้อนชา และ ข้าว 2 ช้อนชา
ลงในถ้วยที่เตรียมไว้
2.ตอกไข่ 1 ฟอง ใส่ถ้วยแล้วปรุงรส (ห้ามใส่ผงชูรส รสดี หรือสารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ) ตีส่วนผสมให้เข้ากัน
3.เปิดเตาทาโกะยากิให้ร้อนใส่มาการีนลงไป แล้วรอให้ละลาย เมื่อลายแล้วและเริ่มเดือดให้ตักไข่ที่ปรุงไว้ใส่ลงเตา
4.รอไขสุกแล้วพลิกจนสุกทั้งลูก ก็จะได้ลูกกลมๆคล้ายทาโกะยากิ
5.ตักขึ้นมาใส่ถ้วยแล้วราดด้วยมายองเนส
ในขั้นตอนนี้สามารถสอดแทรกเรื่องวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการตั้งสมมติฐาน การเปลี่ยนแปลง และความร้อน 
2.แบ่งเด็กเป็น 4 ฐาน
ฐานที่1 วาดภาพ วัถุดิบและอุปกรณ์
ฐานที่2 เตรียมวัตถุดิบ
ฐานที่3 ผสมวัตถุดิบ
ฐานที่4 ลงมือทำ ทาโกะยากิไข่ข้าว
*เด็กแต่ละคนต้องได้ทำทุกฐานแต่ละฐานต้องมีครูคอยดูแล
ขั้นสรุป
ครูถาม(ร่วมกันสนทนา)เกี่ยวกับสิ่งที่เด็กได้รับในกิจกรรมนี้


วาดภาพและอุกรณ์




ลงมือทำ


การประยุกต์ใช้
การเรียนการสอน คือการที่ ให้เด็กมีส่วนร่วมในทุกๆขั้นตอน

การประเมิน
ประเมินอาจารย์
 เนื่องจากวันนี้พี่เป็นมาสอนจึงประเมินได้ดังนี้ พี่มีความตั้งใจสอนดี สามารถนำความรู้ที่พี่ๆสอนไปใช้ในชีวิตประจำวันได้
ประเมินตนเอง
ตั้งใจทำกิจกรรมเป็นอย่างดี
ประเมินเพื่อน
ตั้งใจทำกิจกรรมดี 


การบันทึกครั้งที่ 8 วันอังคารที่ 27 กันยายน 2559 เวลาเรียน 13.30 - 17.30 น

สอบกลางภาค

วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2559

การบันทึกครั้งที่ 7 อังคารที่ 20 กันยายน 2559 เวลา 13.30 - 17.30 น

ไม่ได้เข้าเรียนเพราะตื่นมาแล้วโลกหมุนเนื่องจากน้ำในหูไม่เท่ากัน

การบันทึกครั้งที่ 6 วันองคารที่ 13 กันยายน 2559เวลา 13.30 - 17.30 น

ไม่ได้เข้าเรียนเนื่องจากท้องเสียค่ะ

การบันทึกครั้งที่ 5 วันอังคารที่ 6 กันยายน 2559 เวลา13.30 - 17.30 น

ความรู้ที่ได้รับ
อาจารย์ให้ไปดูวีดีโอเรื่อง อากาศมหัสจรรย์ อากาศเป็นสิ่งที่อยู่รอบๆตัวเราที่สามารถเคลื่อนที่ได้ มีน้ำหนัก และ จะลอยตัวเมื่อมีความร้อน
การทดลอง
นำลูปโป่งสองใบ มาเปล่าลม แล้วนำไปแขวนกับไม้ทั้งสองข้าง หลังจากนั้นก็จุดไฟแล้วนำไปลนข้างล้างลูกโป่ง ฝั่งลูกโป่งที่ถูกไฟลนนั้นลอยขึ้น เนื่องจากอากาศที่มีความร้อนจะลอยตัวเหนืออากาศเย็น
หลังจากนั้นอาจารย์ให้แต่ละคนออกมานำเสนอของเล่นที่ตนทำมา 
การประยุต์ใช้
นำการทดลองในวีดีโอมาปรับให้เหมาะสมกับเด็กแล้วนำไปเป็นสื่อการสอน
ประเมินอาจารย์
อาจารย์อธิบายของเล่นของเพื่อนทำให้เข้าใจง่ายขึ้น
ประเมินตนเอง
ตั้งใจดูวีดีโอบ้างบางครั้ง
ประเมินเพื่อน
ส่วนใหญ่เพื่อนตั้งใจดูวีดีโอ

ครั้งที่4่ งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2559 National Science and Technology Fair Thailand วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม 2559

ความรู้ที่ได้รับ
ได้รู้เกี่ยวกับ กระดูกเทียมไททาเนียม หวานซ่อนโรค พัลส์ ไข่ ของหมักดองต่างๆ โลกดาราศาตร์ นวัตกรรมของรถ และ ยุง 
ส่วน kidzone  มีกิจกรรมต่างๆให้เด็กๆได้เล่น เช่นการต่อเลโก้ และมีการโชว์ผลงานการต่อเลโก้เป็นโมเดลต่างๆ





โมเดลเครื่องบินจากเลโก้









การไปศึกษาดูงานครั้งนี้ทำให้รู้เรื่องเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์มากยิ่งขึ้น











วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2559

การบันทึกครั้ง3 วันอังคารที่30 สิงหาคม 2559 เวลา 13.30 - 17.30 น.

ความรู้ที่ได้รับ
อาจารย์ให้คัดอักษรไทยแบบหัวกลมตัวหัวเหลี่ยม
หลังจากนั้นให้จับกลุ่ม กลุ่มละ5คน แล้วอาจารยืแจกกระดาษและคลิปหนีบกระดาษอย่างละ1ให้แต่ละกลุ่ม โดยให้ประดิษฐ์ของเล่นวิทยาศาตร์ แต่ละกลุ่มห้ามซ้ำกัน
กลุ่มของฉันทำกังหันลม
วิธีทำ
1.ตัดกระดาาA4 เป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส
2.ตัดมุมทั้งสี่ด้านลึกเข้าหากึ่งกลางพอประมาน
3.พับมุมเข้าหากันแล้วนำคลิปหนีบกระดาษดัดให้ตรงนำคลิปหนีบกระดาษยึดมุมทั้งสี่ จนกลายเป็นกังหันลม
4.นำยางลบมายึดข้างหน้าของกังหันเพื่อไม่ให้กังหันหลุด










หลังจากทำของเล่นเสร็จอาจารย์ให้แต่ลกลุ่มนำเสนอหน้าชั้นเรียน
กลุ่มที่1 ทำนิทานเล่าเรื่องเกี่ยวกับอากาศและฝน
กลุ่มที่2 ทำพัด
กลุ่มที่3 ทำกังหันลม
กลุ่มที่4 ปล่อยคลิหนีบกระดาษและดาษพร้อมกัน แล้วดูว่าอันไหนตกถึงพื้นก่อนกัน
กลุ่มที่5 ทำเป็นสื่อเกี่ยวกับอากาศและฤดูต่างๆ
กลุ่มที่6 ทำเรือ
การประยุกต์ใช้
เราสามารถประดิษฐ์ของเล่นเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์จากสิ่งใกล้ตัว มาเป็นสื่อการสอนได้ในอนาคต
ประเมินผู้สอน
อาจารย์ได้อธิบายของเล่นแต่ละกลุ่มทำให้เข้าใจเกี่ยวกับอากาศมายิ่งขึ้น
ประเมินตนเอง
ฉันได้ช่วยคิดว่าจะประดิษฐ์อะไรและช่วยทำกังหันลม
ประเมินเพื่อน
เพื่อนช่วยกันทำงานของกลุ่มตนเองเป็นอย่างดี

การบันทึกครั้งที่2 วันอังคารที่23 สิงหาคม 2559 เวลา 13.30 - 15.30 น.

ความรู้ที่ได้รับ
อาจารย์ให้สรุปเนื้อหาจากใบงาน เกี่ยวกับเด็กปฐมวัย เรื่อง คุณลักษณะตามวัย พัฒนาการทั้ง 4 ด้านของเด็กปฐมวัย ทฤษฎีการเรียนรู้
การประยุกต์ใช้
เมื่อรู้ถึงสมรรถภาพของเด็กแต่ละช่วงวัยนั้นทำให้เราจัดรูปแบบกิจกรรมได้ง่ายยิ่งขึ้น
ประเมินผู้สอน
-
ประเมินตนเอง
เขียนหนังสือยังไม่สวย และสรุปน้อยเกินไป
ประเมินเพื่อน
เพื่อนตั้งใจสรุปเนื้อหากันดี

การบันทึกครั้งที่1 วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม 2559

ชดเชยของวันที่9,16 สิงหาคม 2559

ความรู้ที่ได้รับ
-อ.อธิบายเกี่ยวกับการทำบล็อค คือ ให้ทำบล็อคเป็นภาษาอังกฤษ  ลิงค์บล็อคอาจารย์ ลิงค์ที่อยู่เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยและคณะ และ ลิงค์บทความ งานวิจัย หน่วยงานที่สนันสนุน และสื่อต่างๆที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์
-วิทยาศาตร์คือ การค้นหาความจริงโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาตร์ เช่น การตั้งสสมติฐาน การสังเกต การทดลอง การใช้เหตุผล เป็นต้น ฯลฯ เพื่อให้ได้ความรู้ ขอเท็จจริง 
เนื้อหาที่เด็กควรได้รับ มี4หน่วยคือ ตัวเด็ก บุคคลและสถานที่ สิ่งต่างๆรอบตัว และธรรมชาติรอบตัว
การศึกษาวิธีการทางวิทยาศาตร์
เครื่องมือ คือ ภาษาและคณิตศาตร์
ความสำคัญ คือการตอบสนองการดำรงชีวิตของมนุษย์เพื่อให้สะดวกสบายขึ้น
เด็กปฐมวัย คือเด็ที่มีอายุตั้งแต่0-5 ปี 11 เดือน 29 วัน ที่ต้องส่งเสริมพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา
การประยุกต์ใช้
เราต้องสอนให้เด็กเป็นคนช่างสังเกต ตั้งสมมติฐาน และ เป็นคนที่รอบคอบ
ประเมินผู้สอน
อาจารย์ยกตัวอย่างทำให้หนูเข้าใจมากยิ่งขึ้น
ประเมินตนเอง
ตั้งใจฟังดีแต่ในบางครั้งอาจหัดไปคุยเล่นกับเพื่อนบ้าง
ประเมินเพื่อน
เพื่อนตั้งใจเรียนเป็นอย่างดี ช่วยกันตอบคำถามดี